เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาให้เวปไซต์รองรับการใช้งานของท่านใด้ดียิ่งขึ้น ทางเราจะมีการเก็บข้อมูลการใช้งานบนเวปไซต์(Cookie) โดยการเข้าชมเวปไซต์นี้ ถือว่าท่านตกลงยอมรับใน นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งแรกของโลก กับเมนูจาก แบรนด์รังนกแท้ รังสรรค์โดย เชฟมิชลินสตาร์ 11-13 พ.ค. นี้ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์
ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งแรกของโลก กับเมนูจาก แบรนด์รังนกแท้ รังสรรค์โดย เชฟมิชลินสตาร์ 11-13 พ.ค. นี้ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์
ประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟครั้งแรกของโลก กับเมนูจาก แบรนด์รังนกแท้ รังสรรค์โดย เชฟมิชลินสตาร์ 11-13 พ.ค. นี้ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์
ชัญชนา และ ชญานุช อรรฆจิรัตฐิกาล
คู่แฝดนักเต้นที่โดดเด่นและแตกต่าง
อายุ 33 ปี
อาชีพ Dancer, Choreographer
FROM PASSION TO PROFESSION
อาชีพหมวดเต้นกินรำกิน ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในสาขาแนะนำจากคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน แต่ใช่ว่าจะไม่มีคุณค่าในตัวเอง เอ้าท์ ชัญชนา และ เอ้ก ชญานุช อรรฆจิรัตฐิกาล คือพี่น้องฝาแฝดที่พิสูจน์ให้เห็นว่า “การเต้น” ที่ทั้งคู่รัก สามารถเป็นอาชีพได้อย่างไร้ข้อกังขา แม้อยู่ข้างหลังก็โดดเด่น และแตกต่าง จากการเต้นและออกแบบท่าเต้นที่ทั้งคู่ทำเป็นหนึ่งเดียวกันกับจังหวะชีวิตมาตลอด อาทิ คอนเสิร์ตของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เทยเที่ยวไทย นิวจิ๋ว ติ๊นา ทาทา ยัง
จีน กษิดิศ ฯลฯ ภาพยนตร์โฆษณา ละครเวที และงานอีเวนต์ต่างๆ นับไม่ถ้วน
เมื่อนักกีฬาฝันเป็นนักเต้น
“ตั้งแต่ประถม เราค่อนข้างมาสายนักกีฬา เป็นทอม เหี่ยว หน้าเหมือนจิ้งจก ผมสั้น วันหนึ่งเดินผ่านที่เขากำลังเรียนเต้นบัลเลต์อยู่ในห้องสตูดิโอ ชุดสีชมพู ทุกอย่างดูสดใส ฟรุ้งฟริ้ง งดงาม รู้สึกอินสไปร์กับตัวเองมาก อยากจะเรียนเต้นกับเขาบ้าง จากนั้นเราเริ่มได้เต้นงานโรงเรียน งานคริสต์มาส รู้สึกผลตอบรับค่อนข้างดี มีความสุขกับสิ่งที่ทำมาก ก็เลยเริ่มคิดว่าสมองเราน่าจะมาทางฝั่งการเคลื่อนไหว น่าจะไปได้ดี ก็ติดตามดูซีดี ดีวีดี วิดีโอ เต้นกัน ได้ดูวีซีดีคอนเสิร์ตแบบ เบิร์ด เบิร์ด ของพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) แล้วอินสไปร์ ชอบมาตั้งแต่ตอนนั้น อยากเข้าไปอยู่เป็นหนึ่งในแดนเซอร์ เป็นเหมือนความฝันที่ยิ่งใหญ่ เราติดตามทุกอย่างทุกอย่างที่มีพี่เบิร์ด แดนเซอร์พี่เบิร์ด เข้าไปออดิชั่นอย่างไร แต่รู้สึกว่าตอนนั้นเรายังโนบอดี้ ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่นี่คือความสนใจ” เอ้าท์
“นอกจากดูทุกอย่างของพี่เบิร์ดแล้ว ทาทา ยัง ศิลปินคนอื่นๆ แดนเซอร์ หรืออะไรที่เต้นๆ ดูหมด เราสนใจข้างหลังพอๆ กับข้างหน้า สนใจแดนเซอร์และท่าเต้น พอๆ กับนักร้อง เหมือนเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ว่าเราอยากไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เริ่มได้ทำลีดผี ลีดโน่นลีดนี่ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ แล้วได้เริ่มทำงานเต้นงานแรก จากหนังเรื่องเพื่อนสนิท ถ่ายทั้งวัน ได้ 500 บาท แล้วอยู่นิเทศฯ จุฬาฯ มีรุ่นพี่ทำงานอยู่ในวงการหนังเยอะมาก เป็นคอนเนกชั่น เรารู้สึกว่า น่าจะสามารถหาเงินจากเต้นได้ อย่างน้อยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ ก็เลยเต้นเพื่อหาเงิน” เอ้ก
เมื่อนักกีฬาฝันเป็นนักเต้น
“ตั้งแต่ประถม เราค่อนข้างมาสายนักกีฬา เป็นทอม เหี่ยว หน้าเหมือนจิ้งจก ผมสั้น วันหนึ่งเดินผ่านที่เขากำลังเรียนเต้นบัลเลต์อยู่ในห้องสตูดิโอ ชุดสีชมพู ทุกอย่างดูสดใส ฟรุ้งฟริ้ง งดงาม รู้สึกอินสไปร์กับตัวเองมาก อยากจะเรียนเต้นกับเขาบ้าง จากนั้นเราเริ่มได้เต้นงานโรงเรียน งานคริสต์มาส รู้สึกผลตอบรับค่อนข้างดี มีความสุขกับสิ่งที่ทำมาก ก็เลยเริ่มคิดว่าสมองเราน่าจะมาทางฝั่งการเคลื่อนไหว น่าจะไปได้ดี ก็ติดตามดูซีดี ดีวีดี วิดีโอ เต้นกัน ได้ดูวีซีดีคอนเสิร์ตแบบ เบิร์ด เบิร์ด ของพี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) แล้วอินสไปร์ ชอบมาตั้งแต่ตอนนั้น อยากเข้าไปอยู่เป็นหนึ่งในแดนเซอร์ เป็นเหมือนความฝันที่ยิ่งใหญ่ เราติดตามทุกอย่างทุกอย่างที่มีพี่เบิร์ด แดนเซอร์พี่เบิร์ด เข้าไปออดิชั่นอย่างไร แต่รู้สึกว่าตอนนั้นเรายังโนบอดี้ ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่นี่คือความสนใจ” เอ้าท์
“นอกจากดูทุกอย่างของพี่เบิร์ดแล้ว ทาทา ยัง ศิลปินคนอื่นๆ แดนเซอร์ หรืออะไรที่เต้นๆ ดูหมด เราสนใจข้างหลังพอๆ กับข้างหน้า สนใจแดนเซอร์และท่าเต้น พอๆ กับนักร้อง เหมือนเป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่ว่าเราอยากไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เริ่มได้ทำลีดผี ลีดโน่นลีดนี่ ได้ทำกิจกรรมต่างๆ แล้วได้เริ่มทำงานเต้นงานแรก จากหนังเรื่องเพื่อนสนิท ถ่ายทั้งวัน ได้ 500 บาท แล้วอยู่นิเทศฯ จุฬาฯ มีรุ่นพี่ทำงานอยู่ในวงการหนังเยอะมาก เป็นคอนเนกชั่น เรารู้สึกว่า น่าจะสามารถหาเงินจากเต้นได้ อย่างน้อยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ ก็เลยเต้นเพื่อหาเงิน” เอ้ก
เต้นจนเป็นอาชีพ
จุดเริ่มต้นที่เข้ามาทำงานเต้น แน่นอนค่ะ คือการออดิชั่นแบบ เบิร์ด เบิร์ด โชว์ครั้งที่ 9 Magic Memories (2551) เป็นออดิชั่นครั้งแรกในชีวิต หลังจากเพิ่งเรียนจบ กลัวมาก แต่ก็ทำเต็มที่แล้วติด 1 ใน 10 แดนเซอร์หลักของพี่เบิร์ด คืออยู่หลังพี่เบิร์ดเลย ค่อนข้างผ่านตาคนดู และเราเป็นฝาแฝด หน้าเหมือนกัน พออยู่คู่กันก็จดจำได้ง่าย ตอนนั้นใครที่ได้เป็นแดนเซอร์พี่เบิร์ด ถือเป็นสุดยอด แล้วเราเป็นคนนอก เพิ่งมาออดิชั่น โนเนม ก็เป็นที่รู้จักขึ้นมาจากตรงนั้นเลย
แล้วงานพี่เบิร์ดนี่ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นแดนเซอร์ได้ พี่อู๋ (เปรมจิตต์ อำนรรฆมณี – ครูและนักออกแบบท่าเต้นประจำตัวเบิร์ดและศิลปินแถวหน้าของไทย ) เขาประกาศตามหาแดนเซอร์ในวิทยุ เอ้กกับเอ้าท์ก็ไปออดิชั่นกันที่ตึกแกรมมี่ ตอนแรกกลัวมาก ยืนหลบๆ อยู่ข้างล่าง ไม่มั่นใจ ค่อนข้างละเอียดในการเลือก ไม่ใช่เต้นได้อย่างเดียว ต้องมีบุคลิกภาพและอะไรบางอย่างที่สามารถเสริมให้ศิลปินดูโดดเด่นขึ้นมาได้ เราตอบโจทย์ตรงนั้น และด้วยคาแร็กเตอร์ค่อนข้างจดจำได้ง่ายเพราะเป็นฝาแฝด ก็ยิ่งเสริมให้เราเป็นที่รู้จักค่อนข้างรวดเร็ว คนก็เริ่มเรียกชื่อกัน เอ้าท์-เอ้ก เอ้ก-เอาท์ แล้วการได้เซ็นสัญญาเข้าไปเป็นนักเต้นอยู่ใน D Dance Troop ของพี่อู๋ ก็ได้เต้นให้กับศิลปินในค่ายแกรมมี่หลายคน
อีกงานที่ไม่ใหญ่มากคือ เป็นแบ็กอัพแดนเซอร์ให้มารีญา ศิลปินของสมอลรูมตอนนั้น (2553) ซึ่งเขาชูจุดเด่นเลยว่าเป็นแดนเซอร์ฝาแฝดสองคนอยู่ข้างหลังนักร้องทุกมิวสิกวิดีโอ คนก็จำได้แม่น เดินบนท้องถนน ก็มีคนทัก ถึงทุกวันนี้เลย
จากนักเต้นสู่นักออกแบบท่าเต้น
ระหว่างที่เราเป็นแดนเซอร์ เราทำงานด้านคอโรกราฟ (Choreograph) มาตลอดสร้างผลงานมาตลอด งานเล็กๆ งานโฆษณา งานอีเวนต์ รวมทั้งละครเวทีลำซิ่งซิงเกอร์ของเอ็กแซกท์ จีทีเอช ในตอนนั้น แต่จุดเด่น จุดเปลี่ยนที่ทำให้คนจำในฐานะคอโรกราฟคนหนึ่งคือการทำให้พี่เบิร์ดค่ะ จากที่เราเป็นแบ็กอัพแดนเซอร์ให้เขามาตลอด อยู่กับพี่เบิร์ดมานาน เขาค่อนข้างไว้ใจ งานทำคอโรกราฟนี่ค่อนข้างจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณสูงมาก ศิลปินต้องเชื่อมั่นในตัวผู้ออกแบบท่าเต้นก่อนนะคะ ถ้าศิลปินไม่เชื่อมั่นในฝีมือ ไม่เชื่อมั่นในตัวเรา จะทำค่อนข้างยาก
จากนักเต้นสู่นักออกแบบท่าเต้น
ระหว่างที่เราเป็นแดนเซอร์ เราทำงานด้านคอโรกราฟ (Choreograph) มาตลอดสร้างผลงานมาตลอด งานเล็กๆ งานโฆษณา งานอีเวนต์ รวมทั้งละครเวทีลำซิ่งซิงเกอร์ของเอ็กแซกท์ จีทีเอช ในตอนนั้น แต่จุดเด่น จุดเปลี่ยนที่ทำให้คนจำในฐานะคอโรกราฟคนหนึ่งคือการทำให้พี่เบิร์ดค่ะ จากที่เราเป็นแบ็กอัพแดนเซอร์ให้เขามาตลอด อยู่กับพี่เบิร์ดมานาน เขาค่อนข้างไว้ใจ งานทำคอโรกราฟนี่ค่อนข้างจะต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และจิตวิญญาณสูงมาก ศิลปินต้องเชื่อมั่นในตัวผู้ออกแบบท่าเต้นก่อนนะคะ ถ้าศิลปินไม่เชื่อมั่นในฝีมือ ไม่เชื่อมั่นในตัวเรา จะทำค่อนข้างยาก
โดดเด่นเป็นคู่
เอ้าท์ เอ้ก ทำงานด้วยกันตลอด ปรึกษากัน เติมเต็มกัน วางแผนต่อยอดความคิดใหม่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นงานโฆษณาหรืออะไรก็ไปด้วยกัน ทำให้ค่อนข้างมีจุดเด่นและประสิทธิภาพในการทำงาน เวลาไปยืนอยู่ข้างหลังศิลปิน ค่อนข้างที่จะมีพลังและเป็นผู้นำได้ ก็เลยได้ขึ้นมาทำงานให้พี่เบิร์ด ได้พิสูจน์ฝีมือแล้วก็เริ่มเป็นที่ไว้วางใจ งานก็เริ่มเข้ามาเรื่อยๆ พี่เบิร์ดเป็นส่วนสำคัญในการเติบโตของชีวิตเราสองคน ที่ทำให้เราอยู่ในสายอาชีพนี้ได้ คอยสอน แล้วก็เป็นไอดอล เป็นอินสไปเรชั่นในชีวิตมาตลอด นอกจากนั้น เราก็ได้สร้างสรรค์หลายๆ ผลงาน เช่น เดอะ วอยซ์ หรือคอนเสิร์ตต่างๆ
เราสองคนไม่เคยดูถูกงานเลย แต่ละงานที่ได้รับมา เล็กใหญ่ เราจะทำให้ดีที่สุด ทำสุดฝีมือ เคารพในทุกๆ งานมากๆ จ้างน้อย จ้างมากทำหมด สิ่งที่ทำให้ยังอยู่ในอาชีพนี้ได้ ถ้าพูดเหมือนอวยตัวเอง เราว่า “ฝีมือ” คือทำออกมาแล้วรู้ว่านี่คืองานของเอ้าท์ เอ้ก ทำออกมาแล้วมีจุดเด่น มีความโดดเด่น ด้วยแนวคิดต่าง ดูได้ทั้งในตลาด และทั้งกลุ่มที่อินดี้หน่อย เราทำได้ทุกอย่าง
การที่เรายังอยู่ในตลาดนี้ได้ อย่างหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรับสื่อต่างๆ ทั้งจากโทรทัศน์และอื่นๆ ตามกระแสให้ทัน ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เอ้าท์ เอ้ก ก็หาเวลาไปเรียนเต้นเมืองนอก และเราคิดว่าการท่องเที่ยวนั้นสำคัญ ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แต่สำคัญ มันคืออินสไปเรชั่น คือการจุดไฟให้เรามองสิ่งต่างๆ ไม่อยู่ในกะลา แล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ต้องไม่คิดว่าตัวเองเก่ง ต้องทำตัวเป็นน้ำเปล่าที่ไม่เต็มแก้วเสมอ พร้อมที่จะรับความรู้ มีอินสไปเรชั่น และต้องถ่อมตน ตัดอีโก้ออกไป อยากแนะนำเยาวชนว่า ให้รับสื่อที่เครียดในเฟสบุ๊กน้อยลง เอาเวลาที่เรานั่งจ้องโทรศัพท์ ไปหาสิ่งที่ชอบ หรือออกไปเรียนเต้น ออกไปทำอาหาร ออกไปเล่นกีฬา หรืออะไรก็ได้ ทำแล้วเราจะรู้ว่าชอบอะไร ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แล้วเราจะรู้สึกว่าชีวิตมีค่าขึ้นมาก สนุกมาก ไม่อยากจะมานั่งจับมือถือเลยค่ะ” เอ้ก
“การเอาตัวออกไปทำกิจกรรมข้างนอกนี่สำคัญที่สุดเพื่อหาแรงบันดาลใจ ออกไปเจอโลกข้างนอกว่าเขาทำอะไรกันบ้าง แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าอยากจะทำจริงๆ อย่ารอโอกาสให้เข้ามาอย่างเดียว อาจฟังดูเวอร์ แต่ ใช้ได้จริงๆ การที่เราออกไปเรียนเต้น เดี๋ยวก็มีคนเห็น ไปรู้จัก ไปสร้างคอนเนกชั่น ถึงได้น้อยมาก สุดท้ายก็ยังดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย” เอ้าท์
การที่เรายังอยู่ในตลาดนี้ได้ อย่างหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การรับสื่อต่างๆ ทั้งจากโทรทัศน์และอื่นๆ ตามกระแสให้ทัน ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เอ้าท์ เอ้ก ก็หาเวลาไปเรียนเต้นเมืองนอก และเราคิดว่าการท่องเที่ยวนั้นสำคัญ ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แต่สำคัญ มันคืออินสไปเรชั่น คือการจุดไฟให้เรามองสิ่งต่างๆ ไม่อยู่ในกะลา แล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ต้องไม่คิดว่าตัวเองเก่ง ต้องทำตัวเป็นน้ำเปล่าที่ไม่เต็มแก้วเสมอ พร้อมที่จะรับความรู้ มีอินสไปเรชั่น และต้องถ่อมตน ตัดอีโก้ออกไป อยากแนะนำเยาวชนว่า ให้รับสื่อที่เครียดในเฟสบุ๊กน้อยลง เอาเวลาที่เรานั่งจ้องโทรศัพท์ ไปหาสิ่งที่ชอบ หรือออกไปเรียนเต้น ออกไปทำอาหาร ออกไปเล่นกีฬา หรืออะไรก็ได้ ทำแล้วเราจะรู้ว่าชอบอะไร ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แล้วเราจะรู้สึกว่าชีวิตมีค่าขึ้นมาก สนุกมาก ไม่อยากจะมานั่งจับมือถือเลยค่ะ” เอ้ก
“การเอาตัวออกไปทำกิจกรรมข้างนอกนี่สำคัญที่สุดเพื่อหาแรงบันดาลใจ ออกไปเจอโลกข้างนอกว่าเขาทำอะไรกันบ้าง แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าอยากจะทำจริงๆ อย่ารอโอกาสให้เข้ามาอย่างเดียว อาจฟังดูเวอร์ แต่ ใช้ได้จริงๆ การที่เราออกไปเรียนเต้น เดี๋ยวก็มีคนเห็น ไปรู้จัก ไปสร้างคอนเนกชั่น ถึงได้น้อยมาก สุดท้ายก็ยังดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย” เอ้าท์
Passionate Quotes :
“เราต้องเคารพในสิ่งที่ชอบจริงๆ เคารพในสิ่งที่ทำจริงๆ”
เอ้าท์ – เอ้ก ชัญชนา และ ชญานุช อรรฆจิรัตฐิกาล Dancer, Choreographer
(จ-ศ: 9.00 ถึง 17.00,
ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
© ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ บริษัท เซเรบอส แปซิฟิค จำกัด