ดวงตา จัดเป็นอวัยวะในร่างกายของคนเรา ที่มีความบอบบางและมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทำให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ ถ้าหากดวงตาทำงานผิดปกติหรือสูญเสียการมองเห็นไป ย่อมมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคนเรา ปัจจุบันในโลกยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีก้าวหน้า สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ กลายเป็นอีกปัจจัยที่ขาดไม่ได้ และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตรวดเร็ว เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้ไลฟ์สไตล์ของคนเราเปลี่ยนแปลงไป ใช้ชีวิตติดจอ อยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้แทบทั้งวัน ไม่ว่าจะทำงาน เรียน พูดคุยออนไลน์ หรือเพื่อความบันเทิงต่างๆ รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ ทำให้ต้องใช้สายตาเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ตามสถิติพบว่า กลุ่ม Gen Y คือ คนที่เกิดในช่วงปี พ.ศ. 2524 – 2543 ครองแชมป์ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดเมื่อเทียบกับคนช่วงอายุอื่นๆ โดยมีการใช้อินเทอร์เน็ตโดยเฉลี่ย 10 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
- การใช้สายตาหน้าจอต่อเนื่องมากกว่า 3 ชั่วโมง/วัน ทำให้เกิดอาการตาล้า ตาเบลอ หรือตาแห้งได้ ถึงร้อยละ 65.5%
- ถ้ายิ่งใช้สายตาเพ่งหน้าจอนานขึ้น ดวงตาจะได้รับแสงพลังงานสูงอย่างต่อเนื่องบวกกับการสั่นกระพริบของหน้าจอ ส่งผลให้กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนักในการจับภาพ จึงเกิดอาการเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อตา ตาล้า พร่าเบลอ มองเห็นภาพซ้อน และในบางคนอาจรู้สึกปวดหัว ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการจ้องจอ ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณคอและบริเวณศีรษะเกิดความตึงเครียด
- นอกจากนี้ ยังมีการกระพริบตาลดน้อยลงจากปกติที่ควรจะกระพริบตา 10-15 ครั้งต่อนาที ส่งผลให้น้ำตาระเหยออกไปมาก ไม่เพียงพอที่จะเคลือบดวงตา ทำให้เกิดอาการตาแห้ง ระคายเคืองตา (4,5) หากมีพฤติกรรมติดจอเป็นประจำเป็นเวลานานๆ ในระยะยาวจะเร่งการเสื่อมของดวงตา อาจทำให้เกิดภาวะกระจกตาอักเสบเป็นแผล กระจกตาขุ่นได้